วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

เฟื่องฟ้า โดย นางสาวศรุตยา ตั้งใจรักการดี

เฟื่องฟ้า

โดย นาสาวศรุตยา ตั้งใจรักการดี


ภาพถ่ายดอกเฟื่องฟ้า ณ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

   สถานที่พบในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

พบได้บริเวณช้างสามตัว ด้านข้างโรงอาหารใหญ่ 


ประวัติและข้อมูลทั่วไป


ชื่อสามัญ                  Paper flower
ชื่อวิทยาศาสตร์        Bougainvillea spp.
ตระกูล                     NYCTAGINACEAE
ประเภท                  ไม้เถาเลื้อย
ถิ่นกำเนิด                 บราซิล

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์


เป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อย ขนาดตั้งแต่พุ่มเล็กถึงพุ่มใหญ่ มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่ ใบเดี่ยว แตกออก สลับกับกิ่ง หรือเยื้องกัน มีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย มีสีเขียวหรือใบด่าง รูปร่างรีแหลมยาว 3-6 ซม. กว้าง 2-3 ซม. ใบประดับลักษณ ะคล้ายรูปหัวใจหรือรูปไข่มี 3-5 ใบ มีหลายสี เช่น ม่วง แดง ชมพู ส้ม ฟ้า เหลืองและอื่นๆ มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อ ตามซอก ใบหรือปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3 ดอก เป็นหลอดยาว 1-2 ซม.
เฟื่องฟ้าถูกค้นพบครั้งแรกในประเทศบราซิลโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสราว ค.ศ. 1766-1769 และได้ถูกนำไปปลูกยังส่วนต่าง ๆ ของโลก เริ่มจากยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย สำหรับในประเทศไทย มีการนำพันธุ์เฟื่องฟ้าเข้ามาจากสิงคโปร์ครั้งแรกราว พศ. 2423 ใน สมัยรัชกาลที่ 5พันธุ์เฟื่องฟ้าในประเทศไทยมีไม่น้อยกว่าต่างประเทศ เนื่องจากเฟื่องฟ้าเจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย และกลายพันธุ์เกิดเป็นพันธุ์ใหม่ขึ้นมากมาย


การปลูก และ ดูแลรักษา


เฟื่องฟ้าเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัดในสภาพกลางแจ้ง ได้รับแสงแดดตลอดวัน ถ้าได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้สีของใบไม่เข้มออกดอกน้อย ต้องการอุณหภูมิปานกลางหรือร้อนชื้น เฟื่องฟ้าจัดเป็นพืชที่ทนแล้งแต่ถ้าต้นยังเล็กควรให้น้ำอย่างเพียงพอ เมื่อโตขึ้นต้องการน้ำปานกลางถึงค่อนข้างต่ำถ้ารดน้ำมากเกินไปจะไม่ออกดอก

สภาพที่เหมาะสม

น้ำ         ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน/ครั้ง
ดิน         ดินร่วนซุย ความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
ปุ๋ย         ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น
              ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง หรือใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร 15-15-15อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ปีละ 4-6 
ครั้ง                         
     
    การขยายพันธุ์         

ขยายพันธุ์ โดยวิธีการปักชำ ตอน การเสียบยอด


โรคและแมลง   
       
ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องโรค ส่วนแมลงนั้นจะมีเพลี้ยรบกวนบ้างในบางครั้ง แต่ควรระวังอย่าให้น้ำขังแฉะเพราะจะทำให้รากเน่า การป้องกันกำจัด ใช้ยาฉีดพ่นโดยใช้ ไดอาชินอน ตามที่ระบุไว้ในฉลากยา

พันธุ์เฟื่องฟ้าที่ปลูกเป็นไม้มงคล

1. พันธุ์ดอกสีแดง      ได้แก่  แดงจินดา แดงรัตนา แดงบานเย็น ตรุษจีนด่าง สาวิตรี กฤษณา

2. พันธุ์ดอกสีขาว       ได้แก่  ทัศมาลีดอกขาว ขาวน้ำผึ้ง สุมาลี สุวรรณี
3. พันธุ์ดอกสีชมพู     ได้แก่  ชมพูจินดา ชมพูทิพย์ ชมพูนุช
4. พันธุ์ดอกสีม่วง      ได้แก่  ม่วงประเสริฐศรี พรสุมาลี ม่วงกฤษณา ทัศมาลี
5. พันธุ์ดอกสีส้ม        ได้แก่  สุมาลีสีทอง
6. พันธุ์ดอกสีเหลือง   ได้แก่  เหลืองอรทัย



ความเป็นมงคล

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้ประจำบ้าน สามารถสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น เพราะเฟื่องฟ้าเป้นพรรณไม้ ที่ได้รับสมญาว่าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับเนื่องจากสามารถนำเฟื่องฟ้าไปใช้ประโยชน์ในด้านสุนทรียภาพเพื่อประดับสวนอาคาร  บ้านเรือนและสถานที่สำคัญต่างๆนอกจากนี้คนไทยโบราณยังมีความเชื่ออีกว่าเฟื่องฟ้าเป็นไม้มงคลทำสำคัญของเทศกาลตรุษจีน เพราะต้นเฟื่องฟ้าสามารถออกดอกสะพรั่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนจึงทำให้บางคนเรียกต้นเฟื่องว่าว่าต้นตรุษจีนดังนั้นบางคนเชื่อว่า เมื่อช่วงดอกเฟื่องฟ้าบานแสดงถึง ความเบิกบาน สว่างไสว ความรุ่งเรือง ที่ก้าวไกลแห่งชีวิต




การนำมาประกอบอาหาร

ดอกเฟื่องฟ้าสามารถใช้ประกอบอาหาร แถมยังมีสรรพคุณใช้เข้าเครื่องหอม หรือเป็นยาบำรุงหัวใจ ส่วนที่นำมาประกอบอาหารก็คือ ดอกโดยนิยมนำดอกมาชุบแป้งทอดที่หาซื้อกินกันได้โดยทั่วไป แต่สีที่เห็นนิยมนำมาทอดกันโดยส่วนใหญ่จะเป็นสีม่วง และสามารถที่จะทำรับประทานเองได้

วิธีทำดอกเฟื่องฟ้าชุบแป้งทอด แค่คุณนำดอกเฟื่องฟ้าที่เตรียมไว้แล้ว มาชุบในแป้งชุบทอด รอให้น้ำมันร้อนจัด แล้วใส่ดอกเฟื่องฟ้าที่ชุบแป้งแล้วลงไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นมารอจนน้ำมันสะเด็ด รับประทานกับน้ำจิ้ม เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

อ้างอิง

http://th.wikipedia.org
http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m6/BotanicalGarden/fuengfar.html
http://www.panmai.com/GardenSong/Flower_16.shtml
http://techno.thepbodint.ac.th/topmenu.php?c=listknowledge&q_id=296

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น